บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) “บริษัท” กำหนดให้มีนโยบายความมั่นคงปลอดภัยด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ที่ครอบคลุมทั้งด้านความมั่นคงปลอดภัยทางเทคโนโลยีสารสนเทศ และความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ สอดคล้องกับการนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในการดำเนินธุรกิจ โดยรักษาไว้ซึ่งความลับ ความถูกต้อง และความพร้อมใช้งานของระบบและข้อมูลสารสนเทศของบริษัท
1.1 วัตถุประสงค์
นโยบายฉบับนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้ระบบสารสนเทศของบริษัท มีการประเมินและจัดการความเสี่ยงให้อยู่ในระดับที่ยอมรับได้ มีการควบคุมภายในที่ดี มีความมั่นคงปลอดภัย ถูกต้องและเชื่อถือได้ ตลอดจนข้อมูลและทรัพย์สินสารสนเทศของบริษัท ได้รับการดูแลรักษาอย่างเหมาะสม สอดคล้องตามข้อบังคับ กฎ ระเบียบ กฎหมายด้านความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศ มาตรฐานสากลที่เกี่ยวข้อง และประกาศคำสั่งของหน่วยงานกำกับธุรกิจ
1.2 ขอบเขตของนโยบาย
บุคลากรของบริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย ต้องศึกษา ทำความเข้าใจ นโยบายความมั่นคงปลอดภัยด้านเทคโนโลยีสารสนเทศฉบับนี้ และถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัด
1.3 วันที่มีผลบังคับใช้
นโยบายฉบับนี้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่คณะกรรมการบริษัทอนุมัติ
1.4 ความถี่ในการทบทวน และการแก้ไขปรับปรุงนโยบาย
นโยบายฉบับนี้จะต้องได้รับการทบทวนทุกปี หรือเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงที่มีนัยสําคัญแก่การแก้ไขทบทวนแก้ไข ปรับปรุง
การแก้ไขปรับปรุงที่มีนัยสําคัญ การทบทวน หรือการต่ออายุนโยบายฉบับนี้ จะต้องได้รับการอนุมัติโดยคณะกรรมการบริษัท ทั้งนี้ การแก้ไขปรับปรุงที่ไม่มีนัยสําคัญจะต้องได้รับการอนุมัติโดยคณะกรรมการจัดการ (“Management Committee: MC”) และ/หรือคณะกรรมการชุดย่อยที่เกี่ยวเนื่อง ก่อนนำรายงานต่อคณะกรรมการบริษัทเพื่อทราบตามลำดับ
1.5 ผู้รับผิดชอบนโยบาย
สายเทคโนโลยีสารสนเทศ เป็นผู้รับผิดชอบบริหารจัดการนโยบายฉบับนี้
2.1 คำนิยาม
2.1.1 | “บริษัท” หมายถึง บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) |
2.1.2 | “บริษัทย่อย” หมายถึง บริษัทที่บริษัทถือหุ้นไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อมเกินกว่าร้อยละ 50 |
2.1.3 | “ระบบสารสนเทศ” (Information Technology) หมายถึง ระบบหรือกระบวนการประมวลผลข้อมูลโดยการใช้เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์เข้ามาใช้จัดการข้อมูล (Data) อย่างเป็นระบบ เพื่อให้ได้สารสนเทศ (Information) ที่มีประสิทธิภาพ ในการสนับสนุนธุรกิจ. |
2.1.4 | “ความมั่นคงปลอดภัยระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ” (Information Technology Security) หมายถึง การป้องกันด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและทรัพย์สินสารสนเทศจากการเข้าถึง ใช้ เปิดเผย ขัดขวาง เปลี่ยนแปลง แก้ไข ทำให้สูญหาย ทำให้เสียหาย ถูกทำลาย หรือล่วงรู้โดยมิชอบ โดยการธํารงไว้ซึ่งความลับ (Confidentiality) ความถูกต้องครบถ้วน (Integrity) และสภาพพร้อมใช้งาน (Availability) ของเทคโนโลยีสารสนเทศและทรัพย์สินสารสนเทศ รวมทั้งคุณสมบัติอื่น ได้แก่ ความถูกต้องแท้จริง (Authenticity) ความรับผิดชอบ (Accountability) การห้ามปฏิเสธความรับผิดชอบ (Non-Repudiation) และความน่าเชื่อถือ (Reliability) รวมถึง การตอบสนองต่อภัยคุกคามและกู้คืนระบบสารสนเทศให้กลับมาเป็นปกติได้รวดเร็วไม่ทำให้ธุรกิจหยุดชะงัก (Resilience) |
2.1.5 | “การรักษาความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์” (Cyber Security) หมายถึง มาตรการหรือการดำเนินการที่กำหนดขึ้น เพื่อป้องกัน รับมือและลดความเสี่ยงจากภัยคุกคามทางไซเบอร์ทั้งจากภายในและภายนอก อันกระทบต่อความมั่นคงของระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ |
2.1.6 | “ภัยคุกคามทางไซเบอร์” (Cyber Threat) หมายถึง การกระทำหรือการดำเนินการใด ๆ โดยมิชอบโดยใช้คอมพิวเตอร์หรือระบบคอมพิวเตอร์หรือโปรแกรมไม่พึงประสงค์ โดยมุ่งหมายให้เกิดการประทุษร้าย และ ส่งผลกระทบด้านการปฏิบัติงาน ต่อระบบคอมพิวเตอร์ ข้อมูลคอมพิวเตอร์ หรือข้อมูลอื่นที่เกี่ยวข้อง |
2.1.7 | “โปรแกรมไม่ประสงค์ดี” (Malicious Software) หมายถึง โปรแกรมที่สร้างขึ้น เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ไม่พึงประสงค์กับผู้ใช้งานหรือระบบ โดยทำงานในลักษณะที่เป็นการโจมตีระบบ การทำให้ระบบเสียหาย รวมไปถึงการโจรกรรมข้อมูล |
2.1.8 | “โปรแกรมป้องกันไวรัส” (Antivirus Software) หมายถึง โปรแกรมที่สร้างขึ้น เพื่อคอยตรวจจับ ป้องกัน และกำจัดโปรแกรมไม่ประสงค์ดีหรือโปรแกรมคุกคามทางคอมพิวเตอร์ ซึ่งหมายถึง ไวรัส เวิร์ม โทรจัน สปายแวร์ แอดแวร์ และซอฟต์แวร์คุกคามประเภทอื่น ๆ |
2.2 ข้อกำหนด
2.2.1 | จัดให้มีกรอบการปฏิบัติงานความมั่นคงปลอดภัยด้านเทคโนโลยีสารสนเทศที่เหมาะสมและรัดกุม ครอบคลุมถึงผู้ให้บริการภายนอกที่มีการใช้บริการ |
2.2.2 | จัดให้มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อธำรงไว้ซึ่งความลับ (Confidentiality) ความถูกต้องครบถ้วน (Integrity) สภาพพร้อมใช้งาน (Availability) ของระบบสารสนเทศภายในบริษัท และความต่อเนื่องในการดำเนินธุรกิจ (Business Continuity) |
2.2.3 | จัดให้มีการบริหารจัดการทรัพย์สินสารสนเทศ มีการจำแนกประเภททรัพย์สินสารสนเทศและจัดระดับชั้นความลับ มีมาตรการป้องกันระบบและข้อมูลสารสนเทศของบริษัทจากการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อไม่ให้เกิดข้อมูลรั่วไหล หรือการแสวงหาประโยชน์จากตำแหน่งหน้าที่โดยมิชอบ |
2.2.4 | จัดให้มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยทางกายภาพและสภาพแวดล้อม มีมาตรการควบคุมการใช้งานของผู้ใช้งานและผู้ดูแลระบบ มีมาตรการป้องกันและรักษาความมั่นคงปลอดภัยในการปฏิบัติงานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ รวมทั้งมีแนวทางในการกำกับดูแลความเสี่ยงและความมั่นคงปลอดภัยทาง ไซเบอร์ |
2.2.5 | จัดให้มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยด้านการสื่อสารข้อมูลสารสนเทศ มีมาตรการการเข้ารหัสข้อมูล เพื่อควบคุมการรับส่งหรือแลกเปลี่ยนข้อมูลสารสนเทศ รวมถึงมีแนวปฏิบัติที่ดีในการจัดหา พัฒนา และดูแลรักษาระบบสารสนเทศ |
2.2.6 | จัดให้มีมาตรการป้องกันโปรแกรมไม่ประสงค์ดี ภัยคุกคามที่มีต่อระบบสารสนเทศ และภัยคุกคามทาง ไซเบอร์ รวมถึงมีการบริหารจัดการโปรแกรมป้องกันไวรัส การบริหารจัดการช่องโหว่ทางเทคนิค หรือการทดสอบความมั่นคงปลอดภัยของระบบสารสนเทศอย่างต่อเนื่อง หรืออย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง |
2.2.7 | จัดให้มีการบริหารโครงการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศที่มีประสิทธิภาพ มีการจัดทำแผนบริหารความต่อเนื่องในการดำเนินธุรกิจ และแผนฉุกเฉินด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อเตรียมความพร้อมและสามารถรับมือภัยหรือเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่อาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจ และการปฏิบัติงานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศได้อย่างทันท่วงที |
2.2.8 | จัดให้มีการสื่อสารและนำไปปฏิบัติให้เกิดประสิทธิผลทั่วทั้งบริษัท ส่งเสริมและพัฒนาให้เกิดความตระหนักรู้ด้านความมั่นคงปลอดภัยด้านเทคโนโลยีสารสนเทศให้กับบุคลากรอย่างสม่ำเสมอ |
2.3 บทลงโทษ
ผู้ที่ฝ่าฝืนการปฏิบัติตามนโยบายฉบับนี้อาจได้รับโทษตามระเบียบของบริษัท และอาจต้องรับโทษตามที่กฎหมายกำหนดไว้